พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค [10. สังคีติสูตร] สังคีติหมวด 8
ธรรมหมวดละ 8 ประการ คืออะไร
คือ
1
มิจฉัตตะ1(ความเป็นธรรมที่ผิด) 8
1. มิจฉาทิฏฐิ (เห็นผิด)
2. มิจฉาสังกัปปะ (ดำริผิด)
3. มิจฉาวาจา (เจรจาผิด)
4. มิจฉากัมมันตะ (กระทำผิด)
5. มิจฉาอาชีวะ (เลี้ยงชีพผิด)
6. มิจฉาวายามะ (พยายามผิด)
7. มิจฉาสติ (ระลึกผิด)
8. มิจฉาสมาธิ (ตั้งจิตมั่นผิด)
2
สัมมัตตะ2 (ความเป็นธรรมที่ถูก) 8
1. สัมมาทิฏฐิ (เห็นชอบ)
2. สัมมาสังกัปปะ (ดำริชอบ)
3. สัมมาวาจา (เจรจาชอบ)
4. สัมมากัมมันตะ (กระทำชอบ)
5. สัมมาอาชีวะ (เลี้ยงชีพชอบ)
6. สัมมาวายามะ (พยายามชอบ)
7. สัมมาสติ (ระลึกชอบ)
8. สัมมาสมาธิ (ตั้งจิตมั่นชอบ)
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค [10. สังคีติสูตร] สังคีติหมวด 8
3
ทักขิเณยยบุคคล1 (บุคคลผู้ควรแก่ทักษิณา) 8
1. พระโสดาบัน
2. บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งโสดาปัตติผล
3. พระสกทาคามี
4. บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งสกทาคามิผล
5. พระอนาคามี
6. บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งอนาคามิผล
7. พระอรหันต์
8. บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งอรหัตตผล
4
[334] กุสีตวัตถุ2 (เหตุแห่งความเกียจคร้าน) 8
1. ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ มีงานที่ต้องทำ เธอมีความคิดอย่างนี้ว่า
เราจักต้องทำงาน เมื่อเราทำงานอยู่ กายจักเมื่อยล้า อย่ากระนั้นเลย
เราจะนอน เธอจึงนอนเสีย ไม่ปรารภความเพียร เพื่อถึงธรรมที่ยัง
ไม่ถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งธรรมที่ยังไม่ทำ
ให้แจ้ง นี้เป็นกุสีตวัตถุประการที่ 1
2. ภิกษุทำงานแล้ว เธอมีความคิดอย่างนี้ว่า เราได้ทำงานแล้ว เมื่อเรา
ทำงานอยู่ กายเมื่อยล้าแล้ว อย่ากระนั้นเลย เราจะนอน เธอจึงนอน
เสีย ไม่ปรารภความเพียร ฯลฯ นี้เป็นกุสีตวัตถุประการที่ 2
3. ภิกษุต้องเดินทาง เธอมีความคิดอย่างนี้ว่า เราจักต้องเดินทาง เมื่อ
เราเดินทางอยู่ กายจักเมื่อยล้า อย่ากระนั้นเลย เราจะนอน เธอจึง
นอนเสีย ไม่ปรารภความเพียร ฯลฯ นี้เป็นกุสีตวัตถุประการที่ 3